================================================== -->
ส่วนอดีตคู่รัก "โน้ส" อุดม แต้พานิช กับอดีตนางงาม "ป๊อป" อารียา สิริโสดา แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ค่อยหวือหวา ถึงขั้นเปิดตัวเป็นเรื่องเป็นราว แต่อาจจะเรียกว่า เป็นคู่รักที่หลายคนจับตามอง สุดท้ายความรักครั้งนี้ ก็เจอทางตัน กระทั่งเลิกรากันในที่สุด เรียกว่าพอเลิกปุ๊บ ก็มีขาเม้าท์ลือสนั่นว่า หนุ่มอารมณ์ดีดั๊น...ไปชอบกินไอติมยี่ห้อดังซะงั้นซึ่งรักครั้งใหม่เอี่ยมล่าสุด คือการได้พบรักกับสาวไฮโซเจ้าของร้านไอศกรีม ไอเบอร์รี่ "ปลา" อัจฉรา บุรารักษ์ นั่นเอง แถมยังออกมาเปรียบเทียบถึงรักครั้งเก่า (เก็บ) กับ "ป๊อป" อารียา ได้อย่างเผ็ดร้อนว่า"ป๊อปก็คุยกันนานๆ ที อันนี้เป็นอดีตชาตินานแล้ว วันนี้เรามาเริ่มชีวิตใหม่กันดีมั้ยครับ ความสัมพันธ์ ไม่ใช่ ผ้าอนามัย จะได้ย้อนไปย้อนมาเรื่อยๆ มันผ่านมานานแล้วครับ" เฮ้อ!!! อีแบบนี้ยังมองหน้ากันติดเรอะ
"ก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ไปกันสองคน""เราก็เป็นเพื่อนกัน และยังคงเป็นเพื่อนกันไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องที่มีคนเขียนว่าไปนัวเนียกันที่ผับหาดใหญ่ วันนั้นแก้วไปงานสงกรานต์ อ๊อดเขาก็ไปธุระด้วย แก้วกับต๊อดก็มีโทรถามกันว่าอยู่ที่ไหน แล้วก็ไปเฮกัน แต่ไม่ใช่ไปกันสองคน แก้วมีน้องสาวไปด้วย เช็คได้เลย ที่ผับเขายังมีดีเจ ถามว่าวันนี้ใครหนีแฟนมาเที่ยว แก้วก็ยกมือ ใครไม่โสด แก้วก็ยกมือ ไฟก็ส่องมา ถามหน่อยว่าลักษณะผับแบบนี้ ต่อให้ไม่ใช่ดาราใครจะไปนัวเนีย คนเราถ้าจะทำเรื่องไม่ดี คงไม่ไปในที่เปิดเผยแบบนั้นหรอก" นางอภิรดี กล่าวยืนยัน
โพสต์บล็อกทั้งหมด(990)
การจำแนกประเภท: สารานุกรมเชิงโต้ตอบ
slot joker demo,คิดที่จะเขยิบตัวเองไปทำงานผู้กำกับบ้างไหม ยัง ยัง ตอนนี้ยัง เห็นเขาทำงานกันแล้ว รู้สึกว่าหนักมาก งานผู้กำกับเป็นงานที่หนักมาก ๆ ตอนนี้ถ้าให้ผมเลือกทำผม...จะพูดอย่างไรดี อย่างนี้ดีกว่า งานหนังเป็นการเล่าเรื่องเหมือนกับเป็นงานเดี่ยวไมโครโฟน หละครับ จริงๆ แล้วมันคือการเล่าเรื่องเหมือนกัน แต่งานหนังคือการเอาคน 50คนไปเล่าเรื่อง แต่งานเดี่ยวคืองานคนหนึ่งคนไปเล่า 50 เรื่อง มันกลับกันนะ เราไม่ต้องไปจัดฟงจัดไฟ ตัดต่อ มีช่างกล้องช่างอะไร มีข้าวกงข้าวกอง เอ็กซตร้า ช่างแต่งหน้า โอ้โห้... แต่สำหรับเดี่ยวคือการรวมเอาพวกนี้ทุกอย่างไปรวมอยู่ในไมค์อันเดี่ยว เราเราก็ตัดต่อ เราเล่าเรื่องของเราเอง กำหนดได้ด้วยตัวของเราเอง เราไม่ต้องไปประสานกับคนเยอะ คนเยอะเรื่องแยะ ถ้าเลือกได้ตอนนี้ก็ขอเลือกทำอะไรที่เราถนัดก่อน ถึงแม้นว่ามีเรื่องที่อยากจะเล่าเหมือนกันที่มันเป็นภาพหนะ แต่ถามตัวเองว่า รักลุ่มหลงมันขนาดนั้นเลยรึเปล่า ก็ยัง คือถ้าจะเป็นผู้กำกับหนังก็คงจะไม่ได้เป็นเพราะอยากนั่งเก้าอี้ตัวที่มันเป็นผ้าใบ ที่มีสกรีนคำว่า โน้ตอุดม ไดเรคเตอร์อะไรอย่างเนี่ยะ หรือพูดจา ได้สั่ง ได้ด่าพ่อล่อแม่ใคร อะไรอย่างเนี่ยะ ไปกำกับหนังเพราะว่ามีมวลมีเรื่องที่เราอยากจะเล่าตรงนี้จริงๆ สะเทือนใจไปกับเราจริงๆ ซึ่งพี่พิงตอนเนี่ยะเขาควรจะต้องลุกขึ้นมาทำ เพราะเขามีมวลนี้จริงๆ ผมเนี่ยะไม่เป็นไร เรื่องที่ผมอยากจะเล่า ก็เอามาเล่าเป็นเดี่ยวก็ได้ พูดอย่างนี้แสดงว่า อุดม แต้พานิชกำลังมีแนวโน้มหรือโครงการที่จะลุกขึ้นมาเดี่ยวอีกครั้งในระยะเวลาอันใกล้ไหม ไม่มีหละ ไม่มี ไม่มี ดูหนังอย่างเดียวก่อนละกัน หลังจากนั้นค่อยคิดอีกทีครับว่าอยากทำอะไร ถามจริงอายุจะ40 แล้ว อยู่ตัวคนเดียวอย่างนี้ ไม่รู้สึกเหงาเหรอ เหงาครับ เหงา แบบว่าเมื่อเวลาที่คุณมีอายุเยอะ ๆแล้วนะครับ ต้องพยายามที่จะอยู่กับตัวเองให้ได้ เรา ผมเองละกันไม่ต้องเราหละ ผมเอง.............(นึกนานมากท่ามกลางความเงียบงัน) ผมไม่เคยคิดว่าการไปเดินห้างคือวิธีการคลายเหงา ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย ไปเดินห้างฆ่าเวลา ไม่มี เราทำไม่เป็น โอ้โหเวลามันไม่มีประโยชน์อย่างนั้นเลยเหรอ กินเหล้าแก้เหงาอย่างเนี้ยะหรือคุยโทรศัพท์กับใครแก้เหงา เราทำไม่ได้ เราทำไม่เป็นจริงๆ ถ้าเหงาเราก็วาดรูปฟังเพลง โน่นนี่ทำไป แต่ถ้าถามว่าเหงาไหม เหงาครับ แต่ก็หาอะไรทำไปแล้วก็เรียนรู้ว่าชีวิตทุกคนก็เป็นอย่างเนี่ยะ ไม่ใช่แค่เราคนเดียว มนุษย์ทุกคนก็เป็นอย่างเนี่ยะ เพราะความ เหงา(เน้น) ทั้งนั้นหละครับ มันเป็นสิ่งที่คนเกิดมาแล้วให้คู่มาด้วยเลย เพราะจะได้ให้เราทรมาน จะได้ไม่มีความสุขมาก จำได้ว่าตอนที่ได้ยินเพลงเหงา(พีซเมกเกอร์) ครั้งแรกที่เชียงใหม่ ผมแม่งน้ำตาไหลเลย แล้วผมก็เลยมานั่งวิเคราะห์เพลงที่ฮิตในโลกทุกวันเนี่ยะ ที่โดนทุกวันเนี่ยะ ล้วนเป็นเพลงที่เล่าเรื่องความเหงา แล้วไม่มีใครเอาทั้งนั้นเลย เช่น จะไม่มีใคร ใครรัก....... คนเดียวที่มันธรรมดา ----นี่คือเหงาคนเดียว , พงษ์สิทธ์ เคยเหงากันบ้างไหม นี่ก็โดน ส่วนโมเดิร์นด็อคอะไรนะ คนที่เหงาคนหนึ่ง ใช่มั้ย เพลงที่ปักเข้ามาในใจเราไปนอนนึก นั่นคือความเหงาแล้วไม่มีใครเอา เพลงของน้องหอยอย่างเนี่ยะ ใช่ไหม มันแล้วเวลาโดนนี่โดนกันทุกคนนะ ผมก็เลยบอกว่าเป็นโรคประจำของมนุษย์ไง เป็นโรคประจำตัวเหมือนกับภูมิแพ้ เนี่ยะ เราก็เป็นอย่างเนี่ยะ แล้วก็ต้องอยู่กับมัน เพราะโรคภูมิแพ้ ปรึกษาหมอแล้ว ถ้าแพ้ก็ไม่มีทางชนะครับ ลิซ่า : ส่วนตัวซ่าคิดว่ามันยืดเยื้อไปและยิ่งพี่เขาทำเรื่องให้มันยืดเยื้อแบบนี้เราก็ยิ่งจะไม่จบแค่นี้ ตัวเลขอาจจะเยอะกว่านี้ เป็นตัวเลขที่ทุกคนอาจจะไม่คาดคิดเลยก็ได้ อาจจะเป็นตัวเลขที่เป็นประวัติศาสตร์เลยมั้งคะ เพราะซ่าให้โอกาสเขาแล้วแล้วทางเราก็พร้อมที่จะจบด้วย ทนาย : ถ้าถามว่าตัวเลขที่เรายื่นเสนอไปนั้นมักมากไปหรือเปล่า คือมันวัดกันไม่ได้หรอก การที่เขาขอเลื่อนครั้งนี้ก็เพราะเขาต้องการกลับไปปรึกษาบริษัทอีกทีหนึ่ง เท่าที่ผ่านมาเขาคงไม่คิดว่าตัวเลขมันจะเป็นแบบนี้มั้ง ก็เลยต้องกลับไปปรึกษากันดูใหม่อีกที ครั้งหน้าถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่อง ตกลงกันยังไม่ได้ ก็คงต้องเดินหน้าฟ้องตามกฎหมาย ลิซา : ผู้ไกล่เกลี่ยท่านบอกจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว ครั้งหน้าคงเป็นครั้งสุดท้ายเราก็อยากกลับไปทำมาหากิน ไม่อยากมายืดเยื้อกันแบบนี้ แต่ทางพี่เขามีทนายตั้ง 2 คนพี่เขาเองก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย ก็บอกกับเราว่าขอปรึกษากันอีกที ตามที่ลิซ่าได้คุยกับพี่ทนายไว้ถ้านัดหน้าพี่เขายังสรุปตัวเขาเองไม่ได้ เราก็คงเดินหน้าให้ถึงที่สุดเพราะมาถึงขั้นนี้แล้ว ลิซ่า : 1 ปีที่ผ่านมาเราขึ้นศาลกันทุกนัด ซ่าคิดว่าถ้าพี่เขามีจิตสำนึกที่ดีก็อยากให้จบๆ กันไป อย่างน้อยเราอยู่ในสังคมไทยเดียวกันและอยู่ในสื่อด้วยกันด้วยและซ่าก็ไม่เคยมีเจตนาที่ไม่ดีเพราะเราก็เป็นนักแสดง อย่างถ้าพี่นักข่าวไมได้ให้ความสนใจซ่า ซ่าก็ไม่รู้จะไปพึ่งพาใคร แต่พวกพี่เป็นสื่อที่ดีที่ติดตามข่าวซ่ามาโดยตลอด ซ่าก็คงจะเอาข่าวดีๆให้พี่แน่ๆ ตัวซ่าอยากให้หมดมลทินไป อยากให้เขาพูดจาดปากเขาเองว่าทางเขาพร้อมที่จะทำตามข้อเสนอแต่ทางเขายังอ้ำอึ้งอยู่ หาข้อสรุปไม่ได้สักที เดินเข้าออกอยู่ตลอดเวลาซึ่งซ่าก็งงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะคดีนี้มันน่าจะจบด้วยดีได้และมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยแต่เขาทำเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้นถ้าเขาอยากให้มันยุ่งยากตัวซ่าจะช่วยให้มันยากยิ่งขึ้นเอง ก่อนหน้านี้นักมายากลสาวเคยให้สัมภาษณ์ว่าตนเคยถ่ายแบบให้หนังสือฉบับหนึ่งได้เงินค่าตัวประมาณ 2 ล้านบาทซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าที่ทางเอฟเอชเอ็มเสนอให้หลายเท่า ดังนั้นตนจึงยอมไม่ได้ที่จะถูกเอาเปรียบเช่นนี้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ลิซ่าขอไม่เอ่ยถึงหนังสือพ่อบุญทุ่มที่ตนอ้างอิงนั้น เกรงกระทบนางแบบคนอื่น ลิซา : มันถ่ายนานแล้วค่ะแต่ไม่ใช่หนังสือเล่มนี้(FHM)นะคะ ตอนนั้นที่ถ่ายในคอนเซ็ปต์มายากลด้วยไม่ได้ถ่ายเซ็กซี่ในแบบหนังสือเขาแต่ไม่ขอบอกชื่อหนังสือละกันเพราะเดี๋ยวไปกระทบนางแบบคนอื่นค่ะ ลั่นฟ้องร้องเพื่อเรียกศักดิ์ศรีกลับคืน ลิซ่า : เรื่องมันเป็นปีๆ แล้วมันกระทบเรื่องงานของซ่ามากๆ โอเคหนังสือเขาอาจจะมีชื่อเสียงมากขึ้นแต่ในด้านไหนอันนี้ไม่ทราบแต่ตัวซ่ามันไม่มีผลดีอะไรเลย ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการเรียกศักดิ์ศรีคืนมา กว่าซ่าจะมาเป็น ฟิลลิปส์ -ลิซ่ามายากลใม่ใช่เพิ่งสร้างมาไม่กี่ปี แต่สร้างมา 16 ปี และคนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนเราก็เอาเป็นอาชีพด้วย และเป็นอาชีพที่ไปสร้างชื่อที่ต่างประเทศด้วยซ่าไม่ยอมให้ใครมาดูถูกอาชีพของซ่าแน่นอน สิ่งที่ซ่าเสียใจก็คือน้องๆ นักเรียนที่เขาอ่านแล้วเขาเข้าใจไปว่าซ่าเป็นคนเขียนข้อความนั้น จริงๆไม่ใช่นะคะซ่ามีอาชีพเล่นกลและเป็นอาจารย์สอนเล่นกล ไม่ใช่เป็นอย่างที่เขาเขียน และเท่าที่คุยกับทนายของซ่าเขาบอกว่าคดีของซ่าอาจจะเป็นคดีตัวอย่างด้วย ที่โดนหนังสือเขียนถึงลักษณะแบบนี้ ถามถึงความมั่นใจที่จะชนะคดีทนายอุทร พุทธสีมากล่าวว่าต้องขึ้นอยู่ที่ศาลตัดสิน ทนาย : ข้อเท็จจริงมันปรากฏอยู่แล้วแต่ถามว่ามั่นใจมั้ย มันก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมซึ่งตรงนี้เราต้องผลักภาระให้เป็นหน้าที่ของศาลไป ถ้านัดหน้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ต้องขึ้นศาลอย่างเดียวเพราะคดีมันอยู่ตรงนั้นแล้วแหล่งที่มา : เว็บบอร์ดแหล่งข้อมูล : ทีวีอินไซด์"ทำให้เรามองอะไรละเอียดรอบคอบมากขึ้น"ฝึกกระบวนการทางความคิด : ศิลปะสอนให้รถเมล์มองอะไรกว้าง และละเอียดรอบคอบมากขึ้น เวลาเรียนครูจะสอนให้ตีความหมายของภาพ และวิเคราะห์ออกมาให้ได้ว่าภาพนั้นๆต้องการสื่อสารอะไรกับเรา ซึ่งศิลปะช่วยฝึกให้เป็นคนช่างสังเกต เหมือนกับเวลาที่เราอยู่ร่วมกับคนอื่น ก็ต้องสังเกตอารมณ์ท่าทางของเขาด้วยว่า อยู่ในอารมณ์แบบไหน เชื่อมสัมพันธ์ : พี่ชายและพี่สาวของรถเมล์ก็เรียนศิลปะค่ะ ชอบเข้าไปถามเวลาเขาวาดรูปกัน เขาก็จะพยายามอธิบายให้ฟังด้วยความใจเย็น ยิ่งทำให้เราสนิทกันมากขึ้น หรือเวลาที่รถเมล์จะวาดรูปสีน้ำ คุณแม่จะช่วยเตรียมน้ำ จานสี และผ้าให้ หลังจากวาดเสร็จแล้วรถเมล์จะเอาไปอวด ให้ท่านช่วยวิจารณ์ เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวไปในตัวด้วย รถเมล์คิดว่าการอยู่ร่วมกับคนอื่นก็เหมือนการผสมสี ลงเส้น และลงสี ถ้ามากไป หรือน้อยไป ภาพก็ออกมาไม่ลงตัว ไม่สวย นำไปขายก็ไม่มีใครอยากซื้อ นำไปโชว์ก็ไม่มีใครสนใจดู การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนก็เหมือนกัน วางตัวแต่พอดีจะทำให้อยู่ร่วมกับคนอื่นได้นาน ลดอัตตา : ศิลปะสอนให้คนไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เพราะถ้าเรายึดตัวเองเป็นหลัก เราก็จะมีความคิดด้านเดียว ยึดมั่นอยู่กับสิ่งที่ตัวเองคิดและเห็น ความคิดเห็นคนอื่นก็ไม่มีความหมาย การสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ก็จะน้อยลง
"ถ้าไม่หยุดฟ้องแน่"การพาดพิงถึงคนอื่นถือว่าเข้าค่ายหมิ่นประมาท บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถ้ายังไม่หยุดก็จะฟ้อง การกล่าวหมิ่นประมาท หรือพาดพิงไม่ใช่สิ่งที่ดี ตนเป็นคนมีชื่อเสียง มีหน้ามีตาในสังคม ครอบครัวเกิดความเสียหาย ถ้าหากใครทำให้ครอบครัวและเด็กๆ เดือดร้อน ในฐานะหัวหน้าครอบครัว จะไม่ปล่อยเอาไว้แน่ จะฟ้องย้อนหลังทั้งหมด ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าอดีตภรรยาโทรศัพท์ไปต่อว่านางปริศนา กล่ำพินิจ หรือ ปู นั้น เท็จจริงเป็นเช่นไร นักร้องรุ่นใหญ่ กล่าวแทนว่า ข่าวก็คือข่าว ส่วนเรื่องข้อความที่นางปริศนาส่งข้อความไปบอกถึงความสัมพันธ์ของผู้พันต๊อด กับ นางอภิรดี นั้น นายโอภาส กล่าวว่า เป็นเรื่องจริง แล้วเรื่อง ที่มีปัญหากับค่ายเป่า จิน จง จน ซ้อนุช จะขอเปลี่ยนตัวนางเอกในเรื่อง สายเลือดแห่งรัก ล่ะ? ไม่จริงเลย อั้มไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ ทะเลาะกับ ผกก. ไม่รู้เหมือนกันข่าวมาได้ไง ต้องไปถามคุณปรียานุชนะ รู้สึกยังไงที่โดนมองเป็น ขาวีน? ยอมรับว่ากลัวคนมองว่ายังงั้น อั้มไม่ได้ขาวีนนะ แต่อาจเป็นคนพูดตรงมาก ถ้าใครมาทำเราก่อนก็จะตอบโต้ ถ้าเค้าไม่ได้ทำอะไรอั้ม อั้มก็สามารถเป็นเพื่อนได้กับทุกคน เจอข่าวแบบนี้ก็รู้สึกท้อมาก อ่านข่าวแล้วโอ๊ยเบื่อต๊อดให้กำลังใจบ้างมั้ย? เขาไม่รู้เรื่องข่าว เพราะเขาไม่ได้อ่าน และช่วงนี้เค้ากำลังสอบด้วยได้คุยกับ ซ้อนุช มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น อั้มไม่ได้เข้าบริษัทมานานมากแล้ว แต่กับ ผกก.เนี่ยสนิทกัน นี่ก็นัดดูละครวันแรกด้วยกัน ก็คุยกันว่าข่าวออกมาได้ไง ใครปล่อยข่าวเหรอคิดว่าเป็นการโปรโมตละครหรือเปล่า? อั้มไม่รู้ แต่ขอร้องอย่าเอาอั้มไปโปรโมตแบบนั้นเลยเข็ดกับความรักหรือเปล่า ? อย่าใช้คำนี้เลย คำว่า เข็ด มันเหมือนหวาดกลัว หวาดระแวงไปแล้ว มันไม่ใช่ นัท มองว่า ที่ผ่านมาของนัทสวยงามแล้ว มันสวยงามของมัน เป็นรูปแบบที่เราต้องมีหลายแบบในชีวิต เพราะฉะนั้นทำให้เราเรียนรู้ เป็นประสบการณ์ของนัท ที่นัทรู้สึกพอใจกับมันแล้ว ล่าสุดมาถึง ฟ้าใหม่ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ กู๋-ไพบูลย์ บอสใหญ่ต้นสังกัด เจ้าตัวรีบแจงทันทีว่า กับฟ้าใหม่นี่รู้จักกันก่อนที่จะรู้ว่าเป็นลูกของคุณไพบูลย์อีก เพราะว่าเป็นเพื่อนต่อเพื่อนกันมาอีกที แต่มาเจอกันครั้งแรกที่ตึกแกรมมี่ฯ นี่แหละ ตอนนั้นเขาเข้ามาทำอะไรสักอย่าง แล้วแคลก็มาทำงานมากับเพื่อน ๆ ของแคลพอดี ก็ทักทายกันแล้วก็แนะนำให้รู้จักกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร แค่เอ๊ะชื่อแปลกดีเนอะ (หัวเราะ) เลยคุยกัน บางทีก็ไปกินข้าวกัน แต่ก็จะเป็นกลุ่มเพื่อนนักเรียนนอกทั้งหมด แล้วก็มีเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติบ้าง ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย ไอ้เรื่องที่มีข่าวว่าจะคบกันเป็นแฟนนั้นยิ่งตลกใหญ่ เพราะเราไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ วันที่ไปงานลีวายส์ก็เป็นข่าวว่าแคลไปกับฟ้าใหม่ ซึ่งจริง ๆ มีเพื่อน ๆ ไปอีกเกือบ 1 คันรถตู้ ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย แคลว่าเพราะแคลยังไม่มีแฟนมั้งคะ พออยู่ใกล้กับใครก็จะโดนจับคู่กันไปซะงั้น ยิ่งวันนั้นเป็นฟ้าใหม่ด้วย เลยกลายเป็นประเด็นข่าวใหญ่ไปเลย จริง ๆ แล้วไม่มีอะไร อย่าคิดมากเลยนะคะ
ก่อนหน้านี้:ผล บ อ ล
ฉีเหวินกง 2021-04-18
ซูดา :"ข่าวที่อ่านแล้วซีเรียส คือ ข่าวกับเศรษฐีน้ำมันบูรไน บางเล่มใช้ภาษาเขียนชนิดไม่ควรสื่อสารออกมา กับคนที่เขียนข่าวก็อยากให้คิดถึงคุณพ่อ คุณแม่หยาดนิดหนึ่ง เขียนพาดพิงว่าพ่อแม่หยาดแยกทางกัน เรื่องนี้คงเขียนผิดคน เพราะพ่อแม่หยาดอยู่ด้วยกัน รักกันดีค่ะ และถ้าอยากทำอย่างนั้นหยาดคงไม่ต้องมาทำงานหาเงินหรอก ทุกวันนี้หยาดเหนื่อยมาก นอนวันหนึ่งไม่เคยถึง 4-5 ช.ม. และที่บอกว่าหยาดไปกินข้าวได้คืนละล้าน และถ้าไปทำอะไรแล้วได้คืนละ 5 ล้าน ป่านนี้หยาดคงนอนอยู่บ้านดีกว่า" สาว "หยาด" ทิ้งท้ายแบบเสียงดังฟังชัด แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
แล้วหนุ่มๆ กิ๊กๆทั้งหลายไม่ชะแว่บหายไปในสายลมหรอ ??"โอ้ย!!! มีเข้ามาจีบไม่เยอะหรอกค่ะ ใหม่ว่าตัวเองหน้าตาไม่สวย ไม่เพอร์เฟ็กท์ขนาดที่ทุกคนต้องมาจีบใหม่"
นายสีมาอ่อ 2021-04-18 22:29:15
แหล่งที่มา: บอร์ดซุบซิบดารา
ซู ชุน ชิน 2021-04-18 22:29:15
สวยขึ้นผิดหูผิดตาขนาดนี้ ต้องมีหนุ่มเทียวขายขนมจีบชัวร์ เลย ! ให้พูดไงดี ก็มีเข้ามาจีบเยอะเหมือนกันนะ แต่เดียเองไม่ได้ สนใจใคร หรือว่ามองใครเป็นพิเศษค่ะ ในตอนนี้บางคนมายืนเฝ้าที่หน้าบ้านก็ยังมีเลยนะ หรือว่าเอาขนมเข้ามาฝากไว้กับคุณแม่แบบนี้ก็มีมา เยอะ บางคนเขียนเป็นจดหมายรักมาก็มีค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดี บางคนนี่เขียนมาหวานสุด ๆ อ่านแล้วอินตาม เรื่องรักตอนนี้แค่มองแบบผ่าน ๆ ตอนนี้ขอมุ่งเรื่องการทำงานเพลงก่อน อยากที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองสักครั้ง การที่มีคนเข้ามาให้ความสนใจ เดียก็รู้สึกดีมาก ๆ แล้ว ล่าสุดแว่ว ๆ ว่าถึงขนาดมีหนุ่มจากแดนปลาดิบมาเฝ้าถึงหน้าบ้านเชียวนะเนี่ย... มาแบบแปลก ๆ ก็มีมาเหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้เองมีแฟนเพลงชาวญี่ปุ่นมายืนที่หน้าบ้านตั้งแต่เช้าเลย แต่วันนั้นเดียเองออกไปงานตั้งแต่ตี 5 เดียกลับเข้ามาที่บ้านอีกทีตอนเกือบเที่ยงคืน เค้าก็วิ่งเข้ามายื่นดอกไม้ให้กับเรา แล้วพูดภาษาญี่ปุ่น เดียเองจำไม่ได้ว่าเค้าพูดอะไร ฟังไม่ทันเหมือนกัน แล้วเค้าก็ส่งดอกไม้ให้เสร็จ เค้าก็วิ่งหนีไปเลย เราเองยืนงงอยู่พักใหญ่ แล้วเค้า ก็วิ่งกลับมาขอถ่ายรูปด้วย หลังจากนั้นเดียกลับเข้าไปในบ้าน คุณแม่ก็บอกว่าเห็นมายืนตั้งแต่เช้าแล้วไม่ไปไหนเลย แต่ถ้าเด็ดสุด ๆ เป็นเรื่องที่แฟนเพลงมายืนขวางรถที่เดียขับค่ะ ไม่ยอมให้เราขับรถออกไป แล้วตะโกนบอกว่าผมรักคุณหน้าบ้าน เราเองอึ้งไปเหมือนกัน เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครเข้ามาทำอะไรกับเดียแบบนี้ คุณแม่รีบวิ่งออกมาดู เรื่องนี้โดนที่บ้านแซวไปหลายวันเลยค่ะ ,สา ไม่ชอบเปิดเผยเรื่องความรัก เพราะมองเป็น มุมส่วนตัว แต่ไม่ถึงขนาด ปิดตาย ใครถามก็ได้ แต่ตอบว่า ต้าร์เป็นเพื่อน แต่บางช่วงก็มีข่าวว่ารักๆ-เลิกๆสลับฉาก ไม่อยากก้าวเร็วเกินไป สา ไม่โฟกัสเรื่องรักกับ ต้าร์ ถือ ว่าเป็นเพื่อน เจอกันเรื่อยๆ ทำร้านด้วยกัน หุ้นส่วนกันก็ต้องเจอกันตามปกติ เพื่อแบ่งเปอร์เซ็นต์กันไง 。Power BYRS Promotion & Teenee.com。
Yan Yugong 2021-04-18 22:29:15
แหล่งข้อมูล : มีเดียไทย,แว่วมาว่าไปทำเทปกับยามาพีด้วย เป็นยังไงบ้าง ??ก็ดีครับ สนุกดี ถามว่ายามะพีเป็นคนยังไง เขาเป็นคนเงียบๆ แต่บางครั้งก็สนุก ตลกดี ไมค์เคยบอกเขาว่า เขาฮอตในเมืองไทยนะ แล้วชวนเขามาเมืองไทย ถามว่าอยากมามั้ย เขาก็บอกว่าอยากมา ไมค์ก็ถามเขาอีกว่า อยากมาเที่ยวสยามมั้ย (หัวเราะ) ผมบอกเขาว่าถ้ามาคงไม่สามาถกลับไปได้ เขาก็หัวเราะฮาๆไป"。แหล่งข้อมูล : มีเดียไทย。
ความรักที่ไร้เดียงสา 2021-04-18 22:29:15
V3 "แอปเปิ้ล-อรพรรณ, เชอร์รี่-พรรณสิริ บางประการ"คู่แฝดวัย 20ปี สร้างความฮือฮากันตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารอบทั้งคู่เรียนอยู่ปี 3 คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาจีน ม.เอแบค ได้เปรียบเรื่องการเต้นที่จะสร้างความฮือฮาบนเวทีคอนเสิร์ต จุดเด่น : ความแปลกที่มาเป็นคู่ อาจเป็นทั้งจุดเด่นและด้อย หากไม่ประสานฝีมือกันให้ดี แต่ก็เป็นสีสันที่ต้องจับตามอง ,ให้คำนิยาม โคตรรรักเอ็งเลยในแบบอุดม แต้พานิช รักแต่ต้องแสดงออก รัก ไม่รัก แต่ต้องแสดงออก(พึมพำคนเดียว) รักแล้วต้องแสดงออก คนเรามันจะรักแต่ไม่ค่อยแสดงออก แต่ไม่รักเสือกแสดงออก เอานะเอานะ คนเรานะรักแต่ไม่ชอบแสดงออก(เสียงดังชัดเจนมาก) แต่พอไม่รักแล้วจะแสดงให้เขารู้ เพราะฉะนั้นต้องกลับกันคือถ้ารักมากต้องแสดงออกมาก ผมขอเล่าย่อๆละกันผมมีเพื่อนคนหนึ่งมันมาสอนผมเกี่ยวกับวิธีจีบผู้หญิงในช่วงที่ผมไม่มีใครเลย เป็นสูตรสำเร็จเลยนะ คุณเลื่อนเก้าอี้ให้เขานั่ง ตักข้าวให้กินอะไรเนี่ยะ ดอกม้งดอกไม้ไง ไปชวนกันจัดดอกไม้ ชวนไปดูไร่กุหลาบอะไรอย่างเนี่ยะ คือเขาจะมีสูตรของเขาในวิธีที่จะได้ผู้หญิงมา ผมฟังแล้วเชื่อไหมว่านัยน์ตาผมว่างเปล่า ปล่อยเบลอเลย เชื่อไหมว่า ผมว่าเรื่องพวกเนี่ยะมันไร้สาระมาก ๆเลยนะ ผมเบื่อหน่ายเลยนะครับไอ้พวกความรักแบบช่วงโปรโมชั่น พวกคุณๆอะไรเหรอที่คุณทำกับเขาไปรับไปส่ง ทำเป็นจำเบอร์รองท้งรองเท้า เบอร์รองเท้าแม่ตัวเองจำไม่ได้ แต่ไปจำของเขาได้จำสีอะไรกินอะไร ชอบที่ไหน ทำอะไร พอได้เขาไปเป็นแฟน มึงก็หมดช่วงโปรโมชั่นกับเขาซะอย่างนั้น อยู่ๆก็หมดเลย ทำสัญญาณขาดหายอีกต่างหาก คือทุกวันนี้มันมีแต่อย่างนี้ไง ไม่รักแต่เสือกแสดงออกว่ารักขนาดโน่นนะ แต่ทำหลอกๆ เขาไป แต่ที่รักจริงๆ มันจะไม่ค่อยแสดงออกมันจะลึกๆเข้าไปข้างไหน ผมว่าเสมอต้นเสมอปลายกำลังมาในยุคนี้ แต่ส่วนมากพวกเสมอต้นเสมอปลาย เขาจะไม่รู้ครับยุคนี้ ไม่มีช่วงโปรโมชั่นเลย ราคาเดิมตลอด ไม่ได้รับความนิยม เพราะฉะนั้นนิยามความรักของภาพยนตร์เรื่อง โคตรรักเอ็งเลย สำหรับผมคือ รักนะแต่ต้องแสดงออก ในชีวิตนี้ อุดม แต้พานิช เคยโคตรรักใครเลยไหม คนที่ผมรักมากสุดๆก็คือแม่ของผมเองครับ หนังสือดีคือหนังสือที่เราชอบอ่าน หนังดีคือหนังที่เราชอบดู โน้สอุดมยังคิดอย่างนี้ไหมครับ คิดครับ คิดครับยังคิดอย่างนี้อยู่ครับ เหมือนกับหนังเรื่องโคตรรักเอ็งเลย ก็เป็นหนังที่ผมชอบครับ เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า ลองมาดูนะครับ ลองมาดูนะครับ ผมคิดว่าน่าจะชอบกันนะ หนังเรื่องนี้ไม่ฝืนนะครับ คือมาดูแล้วจะชอบไปเนียนๆ อยู่จะชอบขึ้นมาเลยครับ งง ๆ ไม่มีหน้าหนังหลอกครับ หนังเรื่องนี้ไม่ได้หลอกที่หน้าหนัง แต่ไปหลอกในหนัง (หัวเราะ) 。ขอบคุณข้อมูลจาก: ผู้จัดการออนไลน์ ( manager.co.th )。
เวสต์ทาวเวอร์ 2021-04-18 22:29:15
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง หยาดทิพย์ ถึงรายละเอียดและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการ้องไห้ ปรากฏว่าเธอกำลังอยู่ในงานโชว์ตัวและคุณแม่เป็นคนรับสายแทน และได้สอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว คุณแม่กล่าวว่าเป็นเรื่องตลกและออกปากรับแทนลุกสาวว่า ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับหยาดแน่นอนเพราะ หยาดทำงานทุกวัน และอยู่กับแม่ทั้งวัน จะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และยังย้ำกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ให้ไปบอกคนที่พูดด้วยว่า เป็นเรื่องตลก, โคตรรักเอ็งเลย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่อยู่กันมา 7 ปีแล้ว มันเหมือนกับเป็นธรรมดาของชีวิตคู่คือพอ7ปีแล้วมันจะไปถึงจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่ทำอะไรก็ไม่ทำ เคยจำอะไรแล้วก็ไม่จำ มันกลายเป็นความชาชิน แล้วไอ้จุดๆเนี่ยะ มันเหมือนจะเป็นปัญหาของทุกคู่เลยที่มันเกิดขึ้นนะ มันทำให้ความชาชินเปิดโอกาสให้สิ่งใหม่ๆ คนใหม่ๆ เข้ามา นั่นแหละจะเป็นตัวจุดชนวนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ จนเกิดเป็นคำถามที่ว่าจริงไหมที่ความรักเป็นเรื่องของการยอมไม่ใช่เรื่องของเหตุผล ถ้าจำเป็นต้องเลือกคุณจะให้คนที่คุณรักนอกกายหรือนอกใจ หรือจริงๆแล้วคู่รักทุกคู่ควรจะต้องปิดตาข้างหนึ่งไหม งั้นไหนช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าในเรื่องโคตรรักเอ็งเลย อุดม แต้พานิชเล่นเป็นตัวอะไร เล่นเป็นรงค์ครับ ซึ่งเป็นนักเขียนบทละครตลกที่กำลังอยู่ในช่วงชีวิตขาลง ทั้งหน้าที่การงานและคนรัก ไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าตัวเองไม่ตลก ซึ่งนอกจากจะเป็นคนที่หมกหมุ่นกับงาน หมกหมุ่นกับตัวเองจนดูเหมือนว่าลืมคนรักที่อยู่ข้าง ๆ ในขณะเดียวกันฝ่ายเมียเองจู่ๆก็เห็นเราเป็นตัวประหลาด เคยนอนกับเรา ก็ไม่นอน ก็ดันมาขอเว้นวรรคทาง...... ซะอย่างนั้น เพราะคบกันมา7ปีอยู่ๆเมียของเราตื่นขึ้นมาเกิดมีคำถามจากความรู้สึกที่ว่านี่หรือผู้ชายที่ฉันรัก เทพบุตรขี่ม้าขาวของฉันหายไปไหน ถึงได้กลายเป็นผู้ชายซกมก พุงพลุ้ย กรน เรอ ตด แปรงฟัน จนยาสีฟันกระจายเลอะเต็มกระจก ถอดกางกางในวางทิ้งไม่เป็นระเบียบ ขณะที่ตัวผัวเองก็มีมุมมองความคิดของผู้ชายทั่วไปที่ว่าอยู่กินกันมา 7ปีแล้วยังจะต้องให้มีการแสดงออกอีกเหรอก็น่าจะรู้ว่ารักนะยังต้องให้บอกอีกหรืออย่างไร แล้วถ้าให้คำจำกัดความหนังรักแบบ โคตรรักเอ็งเลยอุดม แต้พานิชจะให้คำจำกัดความหนังเรื่องว่าอย่างไร เป็นหนังรักโคตร ๆครับ คือเป็นหนังรักที่มีภาพสวย เนื้อเรื่องดี มีน้ำตา ทำงานกับผู้กำกับที่รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้วอย่างพิง ลำพระเพลิงเป็นอย่างไรบ้าง พูดถึงการทำงานของผู้กำกับคนนี้ให้ฟังหน่อย พี่พิงเป็นผกก.ที่น่ารัก ตรงที่ว่าให้เกียรติเรานะครับ เวลาที่ทำงานกับเขาเราจะได้ความรู้สึกอย่างหนึ่งคือในฐานะผู้ร่วมงาน ไม่ใช่ว่าคนรับจ้าง ผู้มาร่วมงานในที่นี้หมายถึง ในแต่ละฉากแต่ละซีนที่เราเล่นมีการปรึกษาหารือ ถกเถียง และทดลองทำออกมาเมื่อมีใครเห็นดีว่าทำอย่างนี้ดีกว่า ก็ทดลองทำกันออกมาให้ดีที่สุดนะครับ มันเลยทำให้ตัวนักแสดงเราเกิดความภูมิใจในงานชิ้นนี้ด้วย มันเหมือนช่วยๆกันทำ ช่วยๆกันก่อ ช่วยๆ กันปั้นขึ้นมา ตรงนี้มันก็เลยสนุกครับ อีกอย่างคือถือว่าเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ พี่พิงเขาเป็นผกก.ที่ใจเย็นมาก แทบจะไม่เคยเห็นตวาดอะไรคนทำงานเลยนะครับ แต่ถ้าเครียดก็มีบ้าง เป็นธรรมดาของคนทำหนังที่ต้องรับผิดชอบหลายชีวิต มันก็เลยเป็นการทำงานที่สนุกมากครับ และที่สำคัญพี่พิงเป็นตัวอย่างของผู้กำกับที่ว่าจะให้นักแสดงรู้สึกกับตัวละคร ผู้กำกับจะอินก่อนเป็นคนแรกและส่งผลไปยังนักแสดงไปจนถึงตากล้องช่างไฟ คนตีเสลด ฯลฯ ยกตัวอย่างการทำงานในฉากที่เป็นซีนอารมณ์ที่ต้องร้องห่มร้องไห้ พี่พิงเขาจะกำกับไปร้องไห้ไป เห็นๆ เลย รู้กันทั้งกอง เขาอินไปกับบทที่เขาเขียน มันก็เลยเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้นักแสดงได้รู้สึกว่ามันจริง และอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกนั้นของเขาออกมาให้คนอื่นได้รับรู้ ตัวเขานั่งอยู่หลังมอนิเตอร์ไง มันไม่มีใครรับรู้ แต่ว่าผมแค่มองผู้กำกับแล้วแบบว่า อื้อหือ กำกับไปตาแดงก่ำไป ร้องไห้ ฉากเมียบอกเลิก หรืออะไรอย่างเนี่ยะ มันจริงจนเรารู้สึกได้ว่ามันจริง ก็เลยอยากถ่ายทอดให้มันจริง ไม่ใช่วิธีการกำกับแบบว่าไปตวาดให้นักแสดงร้องไห้ ด่ากันเข้าไป คือไอ้อย่างนั้นมันร้องไห้ก็ร้องให้ได้ แต่ว่าแต่ในใจลึกๆเราอาจไม่ได้รู้สึกไปกับตัวละครจริงๆ 。"ก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ไปกันสองคน""เราก็เป็นเพื่อนกัน และยังคงเป็นเพื่อนกันไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องที่มีคนเขียนว่าไปนัวเนียกันที่ผับหาดใหญ่ วันนั้นแก้วไปงานสงกรานต์ อ๊อดเขาก็ไปธุระด้วย แก้วกับต๊อดก็มีโทรถามกันว่าอยู่ที่ไหน แล้วก็ไปเฮกัน แต่ไม่ใช่ไปกันสองคน แก้วมีน้องสาวไปด้วย เช็คได้เลย ที่ผับเขายังมีดีเจ ถามว่าวันนี้ใครหนีแฟนมาเที่ยว แก้วก็ยกมือ ใครไม่โสด แก้วก็ยกมือ ไฟก็ส่องมา ถามหน่อยว่าลักษณะผับแบบนี้ ต่อให้ไม่ใช่ดาราใครจะไปนัวเนีย คนเราถ้าจะทำเรื่องไม่ดี คงไม่ไปในที่เปิดเผยแบบนั้นหรอก" นางอภิรดี กล่าวยืนยัน 。